ที่ผ่านมาเราต่างปวดหัวกับการเลือกซื้อรองเท้าให้พอดีเท้ากันมามาก แต่ปัญหาจะหมดไปเมื่อมีการคิดค้น LightSpray รองเท้าพิมพ์ 3 มิติตามขนาดเท้า
การเลือกซื้อรองเท้าสักคู่สิ่งแรกที่เราคิดถึงคือแบบ ทรง และสีว่าถูกใจเราหรือไม่ แต่ส่วนที่สร้างปัญหาให้มากที่สุดกลับเป็นขนาด หลายครั้งรองเท้าที่เราเลือกซื้ออาจไม่พอดีหรือใส่สบายที่สุด เพราะบางครั้งขนาดที่พอดีกับเท้าเราหมด หรือแย่กว่าคือมาตรฐานเบอร์รองเท้าไม่ตรงกับขนาดเท้าเรา แต่ปัญหาอาจหมดไปด้วยรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ที่ผลิตจากเครื่องพิมพ์ 3 มิตินี้
LightSpray รองเท้าวิ่งพิมพ์ 3 มิติที่เบาที่สุด
ผลงานนี้เป็นของบริษัท On กับการคิดค้นพัฒนารองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ LightSpray รองเท้าที่เปลี่ยนกรรมวิธีผลิตแบบเดิมมาใช้งานเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตรองเท้าให้สูงขึ้น พร้อมแก้ปัญหาที่เคยเกิดกับอุตสาหกรรมรองเท้าโดยสิ้นเชิง
ปกติเวลาเลือกซื้อรองเท้าเรามักเริ่มจากเดินไปตามร้านรองเท้า มองหาคู่ที่ถูกใจจากนั้นจึงทดลองสวมเพื่อหาขนาดที่พอดี แตกต่างจาก LightSpray ที่จะเริ่มจากการวัดขนาดเท้าผ่านเครื่องสแกน เพื่อให้ได้โมเดลเท้าทั้งสองข้างของผู้ใช้งาน จากนั้นจึงนำโมเดลดังกล่าวไปป้อนเข้าสู่เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
วัสดุที่ใช้ในการขึ้นรูปรองเท้าคือ เทอร์โมพลาสติกในรูปแบบเส้นใย ตัววัสดุจะขึ้นรูปผ่านหัวฉีดที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเป็นส่วนบนของรองเท้า โดยอาศัยการหลอมด้วยความร้อนแบบไม่ใช้กาว ขึ้นรูปตามแบบที่ได้จากโมเดล 3 มิติของเท้าที่สแกนไป แล้วนำมาประกอบเข้ากับพื้นรองเท้าที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
ตลอดกระบวนการผลิต LightSpray จะใช้ระยะเวลาเพียง 3 นาทีจากขั้นตอนเริ่มต้นจนกระทั่งวัสดุเย็นตัวและคงรูป กลายมาเป็นรองเท้าที่มีความยืดหยุ่นสูง สวมใส่ได้โดยไม่ต้องอาศัยเชือก พอดีเข้ากับขาของผู้ใช้งาน อีกทั้งยังมีความบางและเบาเป็นพิเศษยิ่งกว่ารองเท้าวิ่งทั่วไป โดยรองเท้าไซส์มาตรฐาน 8.5 US มีน้ำหนักเพียง 170 กรัม เท่านั้น
นี่จึงถือเป็นรองเท้าวิ่งคุณภาพสูงที่จะทำให้เราไม่ต้องปวดหัวกับการหาไซส์รองเท้าอีกต่อไป
ไม่เพียงผู้ใช้งานและผู้ผลิตแต่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับผู้บริโภคคงไม่มีการเลือกซื้อรองเท้าแบบใดสะดวกไปกว่านี้ ที่ต้องทำมีเพียงสแกนโมเดลเท้าแบบ 3 มิติ เลือกสีและรูปทรงที่ถูกใจ จากนั้นเมื่อทำการสั่งผลิตก็จะได้รองเท้าในแบบที่ชอบและพอดีกับขาในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้การเลือกซื้อรองเท้าเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และเข้าใจง่ายกว่าเดิมมาก
ทางด้านผู้ผลิตรองเท้าเองแนวทางนี้ก็เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง จากเดิมการผลิตรองเท้าจะตั้งต้นขึ้นจากจำนวนยอดขายที่คาดการณ์ แต่จุดบอดสำคัญคือการต้องผลิตคละสีและไซส์หลากหลายรูปแบบ ซึ่งบางครั้งอาจไม่ตอบโจทย์ลูกค้าบางกลุ่ม ทำให้ต้องเป็นภาระคลังสินค้านำไปสู่การลดล้างสต็อกที่เกิดเป็นประจำทุกปี
แต่ด้วยกรรมวิธีการผลิต LightSpray ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลอีกต่อไป วัตถุดิบตั้งต้นสามารถใช้ในการผลิตรองเท้าตั้งแต่เบอร์เล็กสุดไปจนใหญ่สุดพร้อมรองรับทุกสีสัน ทำให้ไม่ต้องลำบากคลังสินค้าหรือเหลือทิ้งไว้เป็นสินค้าคงคลังให้ต้องโละอีกต่อไป ทั้งยังไม่ต้องมาปวดหัวเวลาเหลือไซส์ที่ไม่มีคนใส่ได้อีกด้วย
อีกหนึ่งจุดเด่นของการผลิตรองเท้าผ่านเครื่องพิมพ์ 3 มิติคือ แทบไม่ก่อให้เกิดของเสียในขั้นตอนการผลิต เนื่องจากตลอดขั้นตอนอาศัยเพียงเทอร์โมพลาสติกเท่านั้น ไม่ต้องใช้กาว ไม่ต้องอาศัยตัวเชื่อม ไม่มีการตัดวัสดุส่วนเกินออก จึงไม่มีขยะเหลือทิ้งจากขั้นตอนการผลิต เป็นการใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยคาร์บอนลงถึง 75%
นอกจากนี้ด้วยกลไกการผลิตเรียบง่ายอาศัยเครื่องพิมพ์ 3 มิติกับหัวฉีดเฉพาะเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีของเสียและวัสดุการผลิตตกค้าง ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ห่างไกลชุมชน อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดมลพิษและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ จนอาจเข้ามาตั้งภายในพื้นที่ตัวเมืองได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระ ต้นทุน และมลพิษที่เกิดในขั้นตอนขนส่งอีกด้วย
แหล่งข้อมูล
https://www.posttoday.com/smart-life/712521