One Bangkok สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ด้วยโครงการที่ถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับ Sustainable Development Goals: SDGs ของสหประชาชาติด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ที่มีเป้าหมายเพื่อการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบเน้นๆ ไปสำรวจกัน!
1.ศูนย์กลางการควบคุม ตรวจสอบ บริหารจัดการ
ประกอบด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะกว่า 250,000 จุด
ระบบควบคุมส่วนกลางที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย การปฏิบัติงาน และภัยคุกคามต่างๆ โดยศูนย์ควบคุมนี้ คอยดูแลอุปกรณ์ดิจิทัล สิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ไฟฟ้า อุปกรณ์เคลื่อนที่ตามแนวดิ่ง ท่อประปา ระบบทำความร้อน ระบบบริหารอาคาร และระบบสื่อสาร โดยมีการติดตามตลอด 24 ชั่วโมง
2.ศูนย์กลางการบริหารด้านสาธารณูปโภคอัจฉริยะ
หัวใจของ One Bangkok คือ ศูนย์กลางระบบอัจฉริยะ (Central Utility Plant) อาคารสาธารณูปโภคแบบรวมศูนย์ที่ล้ำสมัย รวบรวมการทำงานทุกระบบไว้ในที่เดียว ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลด้วยความแม่นยำ เพื่อการบริหารและจัดการโครงการฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง โดยมี District Command Center หรือศูนย์บัญชาการกลางพร้อมเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบควบคุม บริหารจัดการและทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์ม Smart Estate ควบคู่กับระบบ AI ขั้นสูงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการระบบการใช้น้ำและพลังงานไฟฟ้าของทั้งโครงการ
3.เสาไฟอัจฉริยะ
ติดตั้งเสาไฟอัจฉริยะกว่า 3,000 จุด เป็นจุดเชื่อมต่อ WiFi ความเร็วสูง
ติดตั้งกล้อง CCTV บนเสาไฟกว่า 5,000 จุด ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
4.ระบบทำความเย็น
ระบบทำความเย็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้น้ำอุณหภูมิต่ำจากระบบรวมศูนย์ ผ่านท่อใต้ดินไปยังแต่ละอาคาร
ประหยัดไฟฟ้า 17,000 เมกะวัตต์ชั่วโมง/ปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน 9,000 ตัน/ปี
ความพิเศษคือ ระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ของ One Bangkok สามารถจ่ายน้ำเย็นได้ทั่วทั้งโครงการ ช่วยให้สภาพแวดล้อมภายในโครงการเย็นสบาย สามารถลดการใช้พลังงาน 22% เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ HVAC (Heating Ventilation and Air Conditioning)
พันธกิจเพื่อความยั่งยืน
5.สมาร์ทกริด
วัน แบงค็อก มีสายส่งไฟฟ้าแรงสูงสองเส้น ที่จ่ายไฟเข้ามาภายในโครงการ โดยสมาร์ทกริดจะช่วยบริหารจัดการพลังงานได้ทั่วทั้งโครงการ ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบไฟฟ้าแบบดั้งเดิม โดยระบบนี้ สามารถจัดการกับความขัดข้องของระบบไฟฟ้าได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย
6.ระบบจัดการน้ำ
ระบบจัดการน้ำของ วัน แบงค็อก มี 2 ระบบ ด้วยการหมุนเวียนน้ำเสียจากโครงการจากระบบท่อระบายความร้อน และระบบชำระล้างจากพื้นที่ส่วนกลาง นำมาสู่กระบวนการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งทำให้ วัน แบงค็อก ไม่มีการระบายน้ำเสียออกนอกโครงการ ทำให้ใช้ทรัพยากรน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน และช่วยประหยัดน้ำได้อย่างน้อย 40%
7.ทำเลและการเชื่อมต่อ
สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า MRT รถประจำทางสาธารณะ และรถรับ-ส่งไปยังสถานี BTS รวมถึงพื้นที่สีเขียว 42,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของต้นไม้ ไม้พุ่ม และพืชคลุมดิน 178 สายพันธุ์ เพื่อนำมาผสมผสานและขยายพื้นที่สีเขียวต่อจากสวนลุมพินี
8.สถานที่ตั้งเพื่อความยั่งยืน
วัน แบงค็อก ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่จอดจักรยาน และพื้นที่สีเขียวกว้างขวาง รวมทั้งยังมีระบบการจัดการน้ำฝน และออกแบบวัสดุภายนอกให้เป็นสีอ่อน เพื่อช่วยลดความร้อนในพื้นที่เมือง
9.วัสดุและทรัพยากร
ใช้วัสดุก่อสร้างจากวัสดุรีไซเคิลและใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่น โดยกว่า 75% ของขยะก่อสร้างมีการนำกลับมาใช้ใหม่ และไม้ที่ใช้ในโครงการมากกว่า 50% เป็นไม้ที่ได้รับการรับรอง
10.นวัตกรรมการออกแบบ
มีสื่อเพื่อความรู้เกี่ยวกับอาคารสีเขียวและการจัดให้มีระบบบริหารจัดการการขนส่งที่มีประสิทธิภาพสูง
ภายในอาคารมีอากาศบริสุทธิ์และมีคุณภาพสูง พร้อมด้วยตัวกรองสองชั้น และฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวี รวมทั้งยังมีระบบเซ็นเซอร์มากกว่า 3,000 จุด สำหรับการตรวจสอบคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง วัสดุที่ใช้มีสาร VOC ต่ำ ปราศจากสารตะกั่วและปรอท และมียังมีระบบลดการสัมผัสช่วยเพิ่มสุขอนามัยที่ดี
แหล่งข้อมูล
https://www.posttoday.com/smart-city/715078