เข้าใจระบบนิเวศ AI จาก AI Stack

 

แนวทางการแบ่ง The AI Stack นี้ อ้างอิงจาก Andrew Ng ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ระดับโลก ผู้บุกเบิก Deep Learning ผู้ร่วมก่อตั้ง Google Brain และ Landing AI ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Stanford

AI Stack คือชั้นต่างๆ ของเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างระบบ AI ที่สมบูรณ์ เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนกับการสร้างบ้าน ที่ต้องมีฐานราก โครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ประปา และส่วนตกแต่ง AI Stack ก็เช่นกัน มีองค์ประกอบหลายชั้น ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงแอปพลิเคชัน

ความเข้าใจระบบนิเวศ AI จะทำให้เข้าใจ AI มากขึ้น

ชั้นต่างๆ ใน AI Stack คือ

1.Semiconductors: คือ “สมอง” ของระบบ AI เป็นชิปประมวลผล ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการคำนวณของ AI เช่น GPU ของ NVIDIA, CPU ของ Intel, AMD

2.Cloud Infrastructure: คือ รากฐานของระบบ AI เป็นบริการ Cloud Computing ที่ให้พลังประมวลผล เครื่องมือในการทำงาน พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และเครือข่าย เช่น AWS, Google Cloud, Azure สำหรับผู้ให้บริการจากจีนที่โดดเด่น เช่น Alibaba, Huawei, Tencent, Baidu

3.Fundamental Models: คือ “ความรู้” ของระบบ AI เป็นโมเดล AI ขนาดใหญ่ ที่ผ่านการฝึกฝนกับข้อมูลมหาศาล เช่น GPT-4, Claude 2, Gemini 2.0

4.Agentic Orchestration Layer: คือ “ผู้ควบคุม” ของระบบ AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการ ประสานงาน ช่วยตัดสินใจ และควบคุมการทำงานของ AI Agents เช่น LangChain, Crew, AG แต่บริษัทใหญ่ๆหลายแห่งที่มีศักยภาพจะสร้างเครื่องมือนี้ขึ้นมาเอง

5.Applications: คือ “ผลลัพธ์” ของระบบ AI เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ AI แก้ปัญหาต่างๆ พัฒนาออกมาให้ใช้งาน เช่น Chatbot, ระบบแปลภาษา, รถยนต์ไร้คนขับ

ในชั้นฮาร์ดแวร์หรือ Semiconductors เป็นหัวใจสำคัญในการประมวลผล วันนี้ NVIDIA โดดเด่นที่สุด เพราะมีการเตรียมพร้อมรองรับการเติบโตของ AI มาก่อนค่ายอื่น เทคโนโลยีน่าจะก้าวหน้ากว่าคู่แข่งไม่ต่ำกว่า 5 ปี และในปัจจุบัน NVIDIA เป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆมีแนวโน้มชัดเจนว่า จะเพิ่มคุณสมบัติการประมวลผลด้าน AI เอาไว้ด้วย ซึ่งสามารถช่วยลดโหลดการทำงานบนคลาวด์ได้ และทำให้งานต่างๆเร็วขึ้น

Generative AI หรือ Large Language Model ต่างๆ ก็เปรียบเสมือน AI Agent หลักที่ใครๆก็เอาไปใช้งานได้ แต่ในขณะเดียวกันนักพัฒนายังสามารถสร้าง AI Agent ของตัวเองขึ้นมาได้ด้วย ให้มันทำงานเฉพาะอย่างตามที่ต้องการ

สำหรับ Agentic Orchestration Layer จะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมระบบ AI ทั้งหมด โดยผู้พัฒนาแอปสามารถกำหนดให้มีการเลือกใช้ AI Agent ตัวไหนตามที่เหมาะสมได้ ให้มันเลือกได้แบบอัตโนมัติตามที่กำหนดไว้

Application ในยุคนี้ มีแนวโน้มชัดเจนว่าจะมีคุณสมบัติ AI รวมอยู่ด้วย แอปเก่าที่มีชื่อเสียงหลายแอปได้เพิ่มคุณสมบัติ AI เข้าไปแล้ว

การสร้าง Application ยุคใหม่ จะใช้ Generative AI ช่วยเขียน Code ตรวจสอบระบบ ทดลองระบบ ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพดีขึ้น ต้นทุนต่ำลงอย่างมาก นับจากนี้ไปจะมีแอปใหม่ๆออกมาอย่างมหาศาล

สำหรับนักพัฒนาทั่วไป โอกาสใหม่ๆมากมายใน AI Stack อยู่ในชั้นของการสร้าง Application ใหม่ๆออกมา

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1070714591733883&set=a.687193000086046