Claude ของ Anthropic ซึ่งมี Amazon เป็นนายทุนใหญ่ มีคุณสมบัติใหม่ที่สามารถทำงานกับคีย์บอร์ดและเมาส์ได้เอง ทำให้มันสามารถทำงานเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่างๆได้อย่างไร้รอยต่อ
AI จะมองเห็นหน้าจอและเข้าใจองค์ประกอบต่างๆ บนหน้าจอได้ ใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเว็บ กรอกแบบฟอร์ม หรือค้นหาข้อมูล
ระบบ Legacy ที่ไม่มี API? ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะ AI สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์
งานที่ต้องทำซ้ำๆ จะถูกทำโดยอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วกว่า ผู้คนจะมีเวลาโฟกัสกับงานสร้างสรรค์และมีคุณค่ามากขึ้น
บริษัทเทคอื่นๆก็กำลังเดินหน้าสร้าง AI Agent หรือ GenAI ไปในทิศทางเดียวกัน
-Microsoft เตรียมเปิดตัว Copilot รุ่นใหม่ในปี 2025 ที่จะมาพร้อมความสามารถในการควบคุมคอมพิวเตอร์ เรียกว่า AI Companion ทำหน้าที่เป็นคู่หูหรือผู้ช่วยประจำตัว สามารถช่วยเหลือในการทำงานกับแต่ละแอปพลิเคชั่นได้
-OpenAI กำลังพัฒนาโมเดล “Operator” ที่จะช่วยให้ AI ทำงานกับระบบ Legacy ได้
-Google DeepMind มุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่สามารถใช้งาน Google Workspace ได้อย่างคล่องแคล่ว
การพัฒนาที่รวดเร็วนี้มาพร้อมความท้าทายด้านความปลอดภัยและจริยธรรม เราต้องมั่นใจว่า:
- มีระบบป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
- มีกรอบจริยธรรมที่ชัดเจนในการใช้งาน AI
- มีมาตรการป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด
“Computer Use” หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ AI กลายเป็นมากกว่าผู้ช่วย แต่เป็น “เพื่อนร่วมงาน” ที่ทำงานเคียงข้างเราได้อย่างแท้จริง
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1067603385378337&set=a.687193000086046