AI จำลองเหตุการณ์จริง ช่วยไขคดีได้แม่นยำ

 

Facial Recognition ที่ใช้ AI จดจำใบหน้า มีตัวอย่างช่วยจับผู้ร้ายได้สำเร็จมาแล้วมากมาย

ในปี 2018 การแสดงคอนเสิร์ตของ แจ็กกี้ เจิง ใน 5 เมืองใหญ่ของจีน มีการเปรียบเทียบหน้าคนดูคอนเสิร์ตกับฐานข้อมูลผู้ร้ายหนีคดี ทำให้จับผู้ร้ายได้ 35 คน

คอนเสิร์ต เทเลอร์ สวิฟต์ ปี 2018 มีการนำ AI ช่วยหาผู้ร้ายและตัวป่วนที่อาจสร้างปัญหา ทำให้จับผู้ร้ายได้หลายราย

ปี 2019 DeepGlint Technology สตาร์ทอัพด้าน AI ของจีน ช่วยตำรวจจับผู้ร้ายหนีคดีมานานกว่า 20 ปี AI สามารถวิเคราะห์ใบหน้าแบบ 3 มิติ คาดการณ์ใบหน้าที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ระบุตัวได้ถูกต้องแม้อยู่ในระยะไกลถึง 50 เมตร ทำให้จับกุมผู้ต้องสงสัยได้มากกว่า 100 ราย

ปี 2023 ตำรวจหลายประเทศ เริ่มมีการใช้ AI อย่างแพร่หลาย สิ่งที่มันทำได้ เช่น

-วิเคราะห์ภาพวงจรปิดเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย

-ตรวจสอบใบหน้าคนร้ายเทียบกับฐานข้อมูลโซเชียลมีเดีย

-วิเคราะห์ข้อความในโซเชียลและอีเมลเพื่อหาเบาะแสการก่อเหตุ

-สร้างแบบจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงเพื่อตรวจสอบคำให้การพยาน

-สร้างภาพจำลอง 3 มิติของสถานที่เกิดเหตุ

AI สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจไขคดีได้แม่นยำและรวดเร็วกว่าเดิมหลายเท่า

8-12-2024 มีข่าวล่าสุดรายงานว่า นักวิจัยจาก Clemson University ได้พัฒนาเครื่องมือ AI ชื่อ “geoFOR” ที่สามารถระบุเวลาการเสียชีวิตได้อย่างแม่นยำ เวลาตายเป็นเบาะแสสำคัญที่จะทำให้จับฆาตกรตัวจริงได้

ในซีรีส์ CSI เราเห็นตำรวจสามารถระบุเวลาตายได้ง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การระบุเวลาเสียชีวิตที่แม่นยำเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก นักวิจัยได้พัฒนาระบบ AI หลากหลายรูปแบบ ทั้ง Machine Learning, Computer Vision และ Natural Language Processing เพื่อช่วยวิเคราะห์หลักฐานในที่เกิดเหตุ

geoFOR ทำงานโดยใช้ฐานข้อมูลจากกรณีศึกษากว่า 3,200 กรณี วิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เช่น สถานที่พบศพ ขนาดร่างกาย สภาพแวดล้อม (ในร่ม/กลางแจ้ง) การปรากฏของหนอนแมลงวัน สภาพการเน่าเปื่อย วันนี้ geoFOR จะยังอยู่ในขั้นพัฒนา แต่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของการนำ AI มาช่วยงานนิติวิทยาศาสตร์

ใครจะไปคิดว่า วันหนึ่ง AI จะมาช่วยไขคดีปริศนาคดีได้เหมือนในหนัง แต่นี่คือความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้น!

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1067764975362178&set=a.687193000086046